ผู้ที่เลิกฝึกจิตTM นั้น มีอัตราต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับเทคนิคการฝึกสมาธิอื่นๆ ที่ได้ทำการวิจัยมา
เนื่องจากความจริงที่ว่าเรามีความสนุกสนานเวลาฝึก และเทคนิคนี้ให้คุณประโยชน์อย่างเต็มที่ จึงยากที่ใครจะเลิกปฏิบัติการฝึกจิตTM หากได้เรียนรู้แล้ว
ผลการวิจัยยืนยันว่าอัตราออกกลางคันของการฝึกจิตTM นั้น ต่ำกว่าการนั่งสมาธิแบบอื่น
แต่ก็ไม่เสียเลยทีเดียว บางครั้งคราวมีคนเลิกฝึกจิต TMไป ด้วย 3 เหตุผลหลักๆ หากรู้เสียแต่เนิ่นๆ ก็จะช่วยให้เราไม่ทำผิดพลาดเหมือนคนอื่น แต่กระนั้นมีคนส่วนน้อยที่เลิกฝึกจิตTMไป
- เทคนิคการฝึกจิตTM ไม่น่าภิรมย์ และไม่ให้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
ปัญหาทั้งคู่เกิดจากเหตุผลเดียวกัน นั้นคือ ขั้นตอนที่เป็นธรรมชาติของการฝึกจิตTM นั้นหายไป เมื่อคนเราเริ่มจดจ่อหรือใช้ความมุมานะ หรือใส่ความพยายามเข้าไป ซึ่งวิธีดังกล่าวจะไม่ใช่การฝึกจิต TM อีกต่อไป อย่างไรก็ตามสิ่งนั้นเกิดขึ้นได้แต่ก็ง่ายที่จะแก้ไข ครูผู้สอนการฝึกจิตTM ไม่เพียงแต่สอนเทคนิค แต่ยังแก้ไขปัญหาสำคัญใดๆ ที่เกิดขึ้นได้ หากใครเรียนเทคนิคการฝึกTM เขามีสิทธิที่จะติดต่อครูผู้สอนตลอดเวลา เพื่อให้ครูตรวจสอบการฝึกจิตของเขา และปรับปรุงเมื่อจำเป็น ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในกรณีนี้ของผู้ฝึกจิตไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิด และอาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ ไม่ได้ใช้ความเป็นไปได้เพื่อทำให้ถูกต้อง
คนที่ฝึกเป็นระยะเวลานานจะได้ประโยชน์ที่เปลี่ยนไป และมักจะเกิดคำถามหรือข้อสงสัยตามมาซึ่งอาจรบกวนการฝึกที่ถูกต้อง ในเวลานี้สิ่งสำคัญที่สุดคือมีครูผู้สอนคอยตอบคำถามและทำให้จิตใจผ่อนคลาย
- เรียนไม่จบหลักสูตรหรือไม่อดทนดูผลลัพธ์
บางคนที่เรียนฝึกจิตTM จะรับรู้ถึงผลการเปลี่ยนแปลงในชีวิตในช่วงสัปดาห์แรกๆ หรือแม้แต่ในวันแรก แต่กับคนอื่นๆ ผลลัพธ์อาจจะค่อยๆ เกิดขึ้น ซึ่งต้องใช้ความอดทนเพื่อสังเกตถึงผลลัพธ์ที่รวมตัวขึ้นมา เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องเรียนฝึกจิตTM จนครบหลักสูตรก่อนที่จะตัดสินในผลลัพธ์ โดยปกติเรายังแนะนำไม่ให้เริ่มเรียนการฝึกจิตTM หากไม่พร้อมเรียนให้ครบหลักสูตร คือต้องมั่นใจว่ามีเวลาเข้าเรียนได้ติดต่อกัน4 วัน วันละประมาณ2 ชั่วโมงได้ เพราะหลักสูตรนี้ประกอบด้วยการเรียนรู้เทคนิค 7 ขึ้นตอน และฝึกจิตTM ที่บ้านอย่างน้อย 3 เดือน โดยมีครูฝู้สอนคอยตรวจผลอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงแนะนำให้เข้าหลักสูตรเสริมนอกสถานที่ในช่วงวันหยุด หลังจากนั้น 2-3 เดือน เพื่อรับประสบการณ์ที่เข้มข้น (หลักสูตรสุดสัปดาห์มีค่าใช้จ่ายสำหรับค่าที่พักและอาหาร)
- บรรลุเป้าหมายแล้ว
หลายคนเริ่มฝึกจืตTM เพราะมีเป้าหมายในใจส่วนตัว ตัวอย่างเช่น ขจัดโรคซึมเศร้า พอสังเกตว่าโรคซึมเศร้าหายไปเท่ากับบรรลุเป้าหมายแล้ว แรงกระตุ้นที่จะฝึกจิตTM ต่อนั้นจะหายไป
- ไม่มีเวลาพอที่จะฝึกจิต
หากเราเริ่มการฝึกจินTM โดยปกติแล้วเราจะมีความกระฉับกระเฉงและสนุกสนานกับมันอย่างเต็มที่ ส่งผลให้เราทำงานต่างๆได้เพิ่มมากขึ้น แต่หากเราให้ความสำคัญกับภาระความรับผิดชอบของงานที่เพิ่มมากขึ้นนั้นไปเรื่อยๆ เราจะพบว่าไม่เหลือเวลาฝึกจิตTM
ในกรณีข้างต้น ความผิดพลาดเป็นเพราะเราลืมไปว่าความสำเร็จใหม่ๆ นั้น เป็นแค่เพียงผลกระทบข้างเคียงของการเปลี่ยนแปลงโดยสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามชีวิตอาจจะดีขึ้น ซึ่งอาจเป็นก้าวเล็กๆ เมื่อเทียบกับความเป็นไปได้ นอกเสียจากว่าคนๆหนึ่งมีความสุขอย่างที่สุดตลอดทั้งวัน มีสุขภาพเป็นเลิศ สามารถเป็นตัวของตัวเองได้โดยสมบูรณ์แบบ และในทุกๆ กรณีนั้น จะหาวิธีแก้ไขอย่างสร้างสรรค์ อย่างไร้ที่ติได้ทันที ต่อปัญหาใดๆ ที่เผชิญอยู่ อาจกล่าวได้ว่ายังมีความเป็นไปได้ว่าจะมีประสบการณ์ที่ดีกว่า
เราแนะนำว่าควรใช้ประโยชน์จากโปรแกรมติดตามผลที่มีในค่าเล่าเรียนหลักสูตรการฝึกจิตTM เพื่อความรู้ความเข้าใจที่มากขึ้นต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่
นักเรียนไม่ควรอายที่จะขอให้ครูผู้สอน เพื่อตรวจสอบการฝึกจิตTM เป็นประจำ เพราะได้จ่ายค่าเรียนไว้แล้ว ขึ้นอยู่กับตัวนักเรียนเองว่าจะใช้โปรแกรมติดตามผลมากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับครูผู้สอนหรือครูจากองค์กรใดๆ ทั่วโลก จะคอยให้คำปรึกษาอยู่เสมอ