การวิจัยด้วยเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดหลายอย่างยืนยันสิ่งที่ข้อความเก่าๆได้กล่าวไว้แล้วเมื่อ 5000 ปีที่แล้ว: การทรานเซ็นเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการพัฒนาอย่างเต็มขั้นของเรา
สมองก็เหมือนกล้ามเนื้อ เมื่อเราฝึกมัน มันก็จะแข็งแรงขึ้น ถ้าเราละเลยมัน มันก็จะหดตัวลง เราใช้เพียงแค่ส่วนเล็กๆของศักยภาพสมองของเราเท่านั้นเพราะเราลืมวิธีฝึกสมองและเพิ่มความสามารถของมันอย่างเห็นได้ชัด
ทุกๆประสบการณ์ที่เราเผชิญกระตุ้นส่วนหนึ่งของสมองเรา เมื่อเราเห็นบางสิ่งบางอย่าง เซลล์สมองในเปลือกสมองส่วนการมองเห็นเริ่มทำการเชื่อมโยงทุกชนิด และด้วยวิธีนั้นมันเพิ่มความแข็งแรงขึ้นเป็นเครือข่าย แต่ถ้าหากเรามีประสบการณ์จำกัด (เช่น เราเห็นสิ่งที่อยู่ในห้อง แต่ไม่เห็นสิ่งที่อยู่นอกห้อง) เราก็ใช้เพียงแค่ส่วนที่จำกัด ของสมอง ส่วนอื่นๆก็ไม่ได้รับการกระตุ้น ไม่สามารถสร้างการเชื่อมโยงที่จำเป็นได้ และผลลัพธ์ก็คือ เซลล์สมองเริ่มตายลง
การใช้งานที่เพิ่มขึ้นของส่วนของสมองที่ถูกซ่อนไว้ผ่านการฝึกจิตแบบทรานเซ็นเด็นทั่ลเมดิเทชั่นมุมมองจากด้านบนของหัวก่อนการฝึกจิตแบบทรานเซ็นเด็นทั่ลเมดิเทชั่น ระหว่างการฝึกจิตแบบทรานเซ็นเด็นทั่ลเมดิเทชั่น
การทรานเซ็นเป็นประสบการณ์ของต้นกำเนิดที่รวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของทุกสิ่งที่มี ประสบการณ์ที่ไม่มีขีดจำกัด ประสบการณ์ที่แต่ละคลื่นของจิตสำนึกของเราเองหลอมรวมเข้าด้วยกันด้วยมหาสมุทรที่ไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสิ่งทั้งมวล (ดู สัมผัสกับตัวตนที่สูงขึ้นของเรา) ในยุคที่ทันสมัยนี้ ผลลัพธ์ของเรื่องนี้ต่อสมองของเราสามารถวัดได้ด้วยเครื่องสแกนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า แรงกระตุ้นเดียวกันจะส่งผลกระทบต่อส่วนที่ใหญ่กว่าของสมองเรา รวมถึงส่วนที่เรียกว่า “ส่วนที่ถูกซ่อนไว้” ด้วยเช่นกัน Ref.Human physiology, 25: 171–180, 1999)
แต่มีวิธีที่น่าสนใจกว่าในการวัดสิ่งที่เกิดขึ้นในสมอง โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์ราคาแพง แต่ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่แสนธรรมดา ผ่านการวัดความสอดคล้องกันของคลื่นไฟฟ้าสมอง
ทุกครั้งที่ส่วนของสมองมีการตื่นตัว จะมีการเคลื่อนไหวทางไฟฟ้าที่สามารถวัดได้ด้วยเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง ซึ่งเป็นเครื่องมือที่แสดงข้อมูลภาพออกมาในลักษณะคลื่น
คลื่นจากการตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองของส่วนต่างๆของสมอง จะถูกส่งไปที่คอมพิวเตอร์แบบทันทีทันใดที่คำนวณขอบเขตของคลื่นที่คาบเกี่ยวกัน (= แสดงความสอดคล้องกัน) ถ้าคลื่นสมองสอดคล้องกันอย่างเต็มที่ นั่นแสดงว่าส่วนต่างๆของสมองเชื่อมต่อกัน และทำงานร่วมกันอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ระหว่างการประกอบกิจกรรมธรรมดา การสอดคล้องกันของคลื่นค่อนข้างต่ำ มันจะอยู่ระหว่าง 30 และ 40% อย่างไรก็ดี ระหว่างการทรานเซ็น จิตจะได้รับประสบการณ์ของสภาวะของการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และมันมีผลกระทบที่วัดได้แบบทันทีทันใดต่อสมองที่เริ่มทำงานอย่างเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น วีดิโอข้างล่างนี้แสดงให้เห็นถึงกระบวนการที่เกิดขึ้นแบบทันทีทันใด
จากการได้ประสบกับความเป็นเอกภาพอย่างสม่ำเสมอ เรากระตุ้นสมองไปสู่การเติบโตขึ้นอย่างเต็มขั้น
ยิ่งใครได้รับประสบการณ์ของความสอดคล้องกันของคลื่นไฟฟ้าสมองสูงเท่าไร สมองก็ยิ่งคุ้นชินกับสภาวะนี้มากขึ้นเท่านั้น ผลก็คือ ความสอดคล้องกันของคลื่นไฟฟ้าสมองเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการฝึกจิตแบบ TM ด้วย ดังที่แสดงในการวิจัยด้านล่างนี้
การเพิ่มขึ้นของความสอดคล้องสัมพันธ์กันของสมองนอกเหนือจากการทำสมาธิ
ผ่านการฝึกจิตแบบทรานเซ็นเด็นทั่ลเมดิเทชั่น
บรรทัดฐาน 2 เดือน 6 เดือน 12 เดือน
กราฟนี้แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของค่าเฉลี่ยของคลื่นไฟฟ้าสมองของนักเรียน 50 คนในช่วงเวลา 12 เดือนมันแสดงให้เห็นว่า มันไม่มีความแตกต่างระหว่างความสอดคล้องของคลื่นไฟฟ้าสมองระหว่างการฝึกจิตแบบ TM สำหรับคนที่ฝึกมาเป็นเวลา 2 เดือน เมื่อเทียบกับคนที่ฝึกมาเป็นเวลา 12 เดือน การทรานเซ็นไม่ใช่สิ่งที่ท่านจะพัฒนาด้วยการฝึก เนื่องจากมันเป็นวิธีที่เป็นธรรมชาติโดยแท้ เราจะทรานเซ็นไปแล้วตั้งแต่ครั้งแรก อย่างไรก็ตาม เราจะเห็นความแตกต่างระหว่างการประกอบกิจกรรมนอกเหนือจากการฝึกจิตแบบ TM: การเพิ่มขึ้นของความสัมพันธ์สอดคล้องกันของคลื่นไฟฟ้าสมองจะคงที่
เป็นเวลากว่า 30 ปีของการวิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์สอดคล้องกันของคลื่นไฟฟ้าสมอง ได้แสดงให้เห็นว่าสมองของเราจะพัฒนาได้ดีก็ต่อเมื่อมันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หมายถึงทำงานร่วมกันอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น ไอคิวและภูมิปัญญาสร้างสรรค์เพิ่มมากขึ้น ความสามารถในการเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น การมีสมาธิพัฒนาขึ้น ความมั่นคงทางอารมณ์มากขึ้น ความหุนหันพลันแล่นลดลง และผู้คนปฏิบัติต่อกันด้วยพฤติกรรมที่มีศีลธรรมมากขึ้น และแม้แต่อาการของโรคสมาธิสั้น ซึ่งเกี่ยวโยงกับความสัมพันธ์สอดคล้องของคลื่นไฟฟ้าสมองต่ำอย่างผิดปกติ ก็หายไปเองอย่างธรรมชาติ ในสาระสำคัญ ความสัมพันธ์สอดคล้องกันของคลื่นไฟฟ้าสมองเป็นวิธีที่วัดได้อย่างแม่นยำว่าคุณภาพในความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในจิตสำนึกเราสามารถเพิ่มขึ้นได้เพียงใด (คุณภาพเหล่านี้ได้ถูกบรรยายไว้ใน สัมผัสกับความเป็นตัวตนของเราที่สูงขึ้น: ภูมิปัญญาสร้างสรรค์ สติปัญญา ความรัก ความสงบ และอื่นๆ)
ความสัมพันธ์สอดคล้องกันของคลื่นไฟฟ้าสมองที่เพิ่มขึ้นเช่นนี้จะสามารถเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรามีประสบการณ์การทรานเซ็นที่แท้จริง ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่แท้จริงของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่มีอิทธิพลต่อสมอง การผ่อนคลายธรรมดาไม่สามารถเพิ่มความสัมพันธ์สอดคล้องกันของคลื่นไฟฟ้าสมองได้มากนัก นี่คือเหตุผลว่าทำไมวิธีการฝึกจิตแบบ TM ถึงให้ผลลัพธ์ต่อสติปัญญา ภูมิปัญญาสร้างสรรค์ และผลการเรียนที่พัฒนาขึ้นอย่างโดดเด่นกว่าการทำสมาธิรูปแบบอื่น
บทสรุป
หากเราต้องการซื้อคอมพิวเตอร์แบบพกพาเครื่องใหม่เพียงเพื่อจะพบว่ามันทำงานด้วยความเร็วเพียงแค่ 10% จากที่มีการโฆษณาไว้ คงไม่มีใครรับได้ คงมีคนเดินกลับไปที่ร้านและส่งซ่อมหรืออัพเกรดทันที แต่ถ้าหากไม่มีใครตระหนักถึงศักยภาพที่แท้จริงของคอมพิวเตอร์ และเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาของทุกคนทำงานด้วยความเร็วต่ำในระดับเดียวกัน ดังนั้น 10% ที่เหมือนกันก็ถือว่า “ปกติ”
ตลอดเวลากว่าศตวรรษ ครูผู้สอนดูเหมือนจะ “โฆษณา” ศักยภาพที่แท้จริงของมนุษยชาติ และบางครั้งก็เสนอตัวอย่างของความเป็นไปได้ที่แท้จริงของระบบประสาทของมนุษย์ แต่วิธีปฏิบัติจริงเพื่อที่จะได้มาซึ่งผลลัพธ์นั้นทักสูญหายไป ท่ามหาริชี ได้กล่าวไว้เสมอว่าการฝึกจิตแบบทรานเซ็นเด็นทั่ลเมดิเทชั่นไม่ใช่สิ่งใหม่ และสามารถพบได้ในคัมภีร์ไบเบิ้ลของวัฒนธรรมอันเก่าแก่ ท่านเพียงแค่ค้นพบวิธีปฏิบัติขึ้นมาอีกครั้งและทำให้มันเป็นระบบ
ประโยชน์ทั้งหมดของการฝึกจิตแบบทรานเซ็นเด็นทั่ลเมดิเทชั่นสามารถพบได้ในเว็บไซต์นี้ สุขภาพที่ดีขึ้น เข้าถึงตัวตนของตัวเองมากขึ้น ความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้น สติปัญญาที่ดีขึ้น ความสำเร็จในเรื่องส่วนตัวและหน้าที่การงานที่มากขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นเพียงผลพลอยได้ของสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ การเติบโตไปสู่การพัฒนาศักยภาพอย่างเต็มขั้น การเติบโตไปสู่สภาวะของชีวิตที่คุณภาพต่างๆของจิตสำนึกจากการทรานเซ็นปรากฏขึ้นอย่างถาวรในชีวิตประจำวัน (การพักผ่อน ความรัก ความคิดสร้างสรรค์และสติปัญญาที่ไร้ขีดจำกัด การเชื่อมโยงกัน) นนี่คือสภาวะที่ท่านมหาริชีได้บรรยายไว้ว่าเป็น “การที่ไม่มีอะไรสามารถเอาชนะได้” (ดู สัมผัสกับความเป็นตัวตนของเราที่สูงขึ้น)
เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่รวดเร็วขึ้นโดยเฉพาะของการเติบโตไปสู่สภาวะของจิตสำนึกที่สูงขึ้น วิธีที่ก้าวหน้าต่างๆนอกจากการฝึกจิตแบบทรานเซ็นเด็นทั่ลเมดิเทชั่นก็ได้ถูกสร้างขึ้น วิธีเหล่านี้สามารถเรียนรู้ได้หลังจากได้รับคำแนะนำในการฝึกจิตแบบ TM หนึ่งในวิธีเหล่านี้ คือ โปรแกรม TM สิทธิ รวมถึงวิธีที่มีชื่อเรียกว่า โยคะ ฟลาย (โปรแกรม TM สิทธิคืออะไร)