บริษัทประกันสุขภาพจะช่วยรักษาได้หลายชีวิตเลยทีเดียว โดยการสนับสนุนคนที่ต้องการที่จะรักษาตัวเอง
เป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว ที่มีผลการศึกษาค้นคว้าแสดงให้เห็นว่า TM นั้นได้ผลเป็นอย่างยิ่งในการฟื้นฟูสุขภาพและป้องกันโรค การวิจัยเรื่อง TM นั้นเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริงในเรื่องความแข็งแรงของร่างกายของเราในการเยียวยารักษาตัวเอง การทรานเซ็นเป็นการกระตุ้นพลังในการเยียวยาจากภายในอย่างเรียบง่าย
บริษัทประกันสุขภาพ (และท้ายที่สุด ผู้เสียภาษีในกรณีของบริการสาธารณสุข) จะสามารถรักษาชีวิตคนได้หากพวกเขาสนับสนุนทางด้านการเงินให้กับผู้คนที่ต้องการเรียนรู้วิธีที่จะรักษาสุขภาพตัวเอง ดีกว่าการที่จะมาให้การสนับสนุนเมื่อสายเกินไป การป้องกันย่อมถูกว่าการรักษาอยู่แล้ว
ทั้งๆที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากมาย แต่คอร์สการเรียน TM ก็ยังไม่ได้รับการสนับสนุนค่าเรียนจากการประกันภัยสุขภาพในประเทศนิวซีแลนด์ มันมีเหตุผลทางการเมืองมาเกี่ยวข้องมากกว่าเหตุผลทางวิทยาศาสตร์เสียอีก: กล่าวคือกลุ่มผู้รณรงค์ของวงการสาธารณสุขจะสูญเสียรายได้ หากผู้คนค้นพบว่าพวกเขามีอำนาจในการรักษาตัวเองมากกว่าที่พวกเขาจะสามารถจินตนาการได้มากเลยทีเดียว
พวกเรา ในฐานะองค์กรซึ่งไม่มุ่งหวังผลกำไร (องค์กรการกุศลที่ได้รับการลงทะเบียนในนิวซีแลนด์) ไม่มีทรัพยากรที่จะสามารถก่อตั้งกลุ่มผู้รณรงค์ได้ และนั่นจะเป็นการขัดต่อศีลธรรมของเราเอง เราเพียงแค่เสนอสิ่งที่น่าจะได้ผลให้เท่านั้น และหวังเพียงว่า จะมีคนมากพอที่จะช่วยกันกดดันบริษัทประกันสุขภาพและรัฐบาลให้หันมาสนับสนุนเรื่องนี้
ในขณะเดียวกัน เราก็พบผู้สนับสนุนเอกชนจำนวนหนึ่ง ที่ให้การสนับสนุนด้านการเงินกับผู้คนที่จำเป็นได้ ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง คอร์สการเรียน TM การให้เงินช่วยเหลือ และการสนับสนุน ไปที่ คอร์สการเรียน TM
การวิจัยทางวิทยาศาสตร์: การป้องกันถูกกว่าการรักษา
นี่คือบางส่วนของผลการศึกษาค้นคว้าที่น่าประทับใจที่สุด ที่แสดงให้เห็นว่าจะสามารถประหยัดเงินได้มากเพียงใด
การศึกษาในวงกว้างในประเทศแคนาดา เชื่อมโยงผู้ฝึก TM จำนวน 1400 คน กับกลุ่มคนที่อายุเท่ากันอีกจำนวน 1400 คน และประเภทของความเสี่ยง การค้นคว้านี้ได้ติดตามค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของทั้งสองกลุ่มในเวลามากกว่า 14 ปี 9 ปีก่อนที่ผู้ฝึก TM จะเริ่มฝึก TM และอีก 5 ปีต่อมา ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มฝึก TM ค่าใช้จ่ายของพวกเขาสูงกว่าอีกกลุ่มหนึ่งเล็กน้อย แต่ทันทีที่พวกเขาเริ่มเรียนรู้วิธีการฝึก TM ค่าใช้จ่ายของพวกเขาเริ่มลดลง และหลังจากนั้น 5 ปี ค่าใช้จ่ายของพวกเขาลดลงถึง 50% สำหรับกลุ่มผู้ฝึก TM ที่อายุมากกว่า (อายุมากกว่า 65 ปี) ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ถือว่าเป็นกลุ่มที่แพงที่สุดในระบบบริการสาธารณสุข แต่ค่าใช้จ่ายกลับต่ำกว่าถึง 70%
อีกหนึ่งการศึกษาในวงกว้างของสหรัฐอเมริกา ที่เปรียบเทียบ สถิติ 5ปี ของผู้ฝึก TM จำนวน 2000 คนกับมาตรฐาน ได้ข้อสรุปที่คล้ายคลึงกันว่า มีการนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลลดลงถึง 50% ของกลุ่มคนอายุน้อย และ 70% สำหรับกลุ่มผู้ฝึก TM ที่อายุมากกว่า 40 ปี
มีสถิติที่มีรายละเอียดมากกว่าที่แสดงให้เห็นถึงอัตราการลดลงในการรักษาตัวที่โรงพยาบาล สำหรับโรคภัยทุกประเภท ยกเว้น การคลอดบุตร รวมถึง 60% ของการลดลงของโดรคมะเร็ง และ 8% ของการลดลงของโดรคหัวใจ
อย่างไรก็ตาม การศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับ TM ที่น่าประทับใจที่สุดคือการศึกษาเกี่ยวกับ โรคหัวใจและหลอดเลือด ที่เป็นการร่วมมือกันกับ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยสาธารณสุขของรัฐบาลอเมริกา ในระหว่าง 20 ปีที่ผ่านมา พวกเขาได้ใช้เงินมากกว่า 25 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการวิจัยโดยเฉพาะ กับเรื่องผลของ TM ที่มีต่อ ความดันโลหิต โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดแข็ง และ โรคหัวใจ เพื่อที่จะสรุปได้ว่า มันได้ผล และเป็นอีกเพียงทางเลือกหนึ่งที่ดูท่าว่าจะได้ผลจริงๆ นั่นหมายความว่า จะได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกันหรือดีกว่าการได้รับผลลัพธ์ที่มาจากการใช้ยา แต่ถูกกว่ามาก และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ การศึกษาค้นคว้า ในเวลา 5 ปี ที่ถูกสุ่มออกมา กับผู้ป่วยโรคหัวใจ 200 คน พบว่า ท่ามกลางผู้ฝึก TM 100 คน มีอัตราที่น้อยลงถึง 48% ของกรณีของอาการหัวใจวาย อาการอุดตันของเส้นเลือดไปเลี้ยงสมอง หรือการเสียชีวิต ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนจากวิธีที่มาจากจิตใจล้วนๆ โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นปัญหาสุขภาพที่แพงที่สุด นี่เป็นการศึกษาค้นคว้ากับผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีอยู่ ผู้ซึ่งเรียนรู้วิธีการฝึกจิตแบบ TM ตอนที่ปัญหาได้เกิดขึ้นแล้ว
สมาคมหัวใจของอเมริกา ได้แนะนำอย่างเป็นทางการแล้วว่า TM ถือว่าเป็นการรักษาของ โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ โดยอิงจากผลลัพธ์เหล่านี้